web 1.0 เป็นเว็บในยุคเริ่มต้นและยังคงมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบันมักมีรูปแบบของไฟล์เป็นนามสกุลเป็น.htm.htmlทำหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสารในแบบสื่อสารทางเดียวผู้ส่งสารกำหนดเนื้อหาเองทั้งหมดต้องมีความรู้พื้นฐานการทำเว็บและยากที่จะส่งต่อเนื้อหาออกไป ผู้รับสารมีหน้าที่รับรู้ข่าวสารเพียงอย่างเดียวไม่สามารถโต้ตอบได้เช่นเดียวกับสื่อกระแสหลักอื่นๆคือหนังสือพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์เว็บรุ่นเก่านั้นมักมีลิขสิทธิ์ของเจ้าของเว็บที่ไม่ต้องการให้นำไปลงที่อื่นแต่ด้วยความเป็นเครือข่ายที่เปิดกว้างกติกานี้จึงเปลี่ยนไป
สำหรับจุดเด่นของ Wikipedia คือการนำเสนอเนื้อหาลักษณะเสรีโดยการเปิดโอกาสให้อาสาสมัครจากทั่วโลกเข้ามาสร้าง
แก้ไข และปรับปรุงเนื้อหาร่วมกันได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ ข้อมูลในเดือนธันวาคมปี
2007 ที่ผ่านมา พบว่า Wikipedia มีเนื้อหากว่า
9 ล้านบทความ ใน 253 ภาษา โดยเฉพาะ
Wikipedia ฉบับภาษาอังกฤษที่มีเนื้อหามากกว่า 2,500,000 เรื่องเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม
การเปิดโอกาสให้ทุกคนแก้ไขเนื้อหาได้อย่างอิสระเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ Wikipedia
กำลังได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า
เนื้อหาที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือ
และถูกต้องมากน้อยเพียงไร
แม้ว่าเมื่อไม่นานมานี้จะมีทีมนักวิจัยพยายามพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของ Wikipedia โดยทำการทดสอบความถูกต้องของ Wikipedia ฉบับภาษาอังกฤษเปรียบเทียบกับสารานุกรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง
Britannica โดยนำเนื้อหาที่เกี่ยวกับด้านวิทยาศาสตร์ไปทดสอบ
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาน่าพอใจคือ มีความถูกต้องใกล้เคียงกัน
รวมถึงความผิดพลาดข้อมูลและการใช้ภาษาใกล้เคียงกัน
แต่ปัจจุบันมหาวิทยาลัยและอาจารย์ผู้สอนจำนวนมากยังไม่สนับสนุนให้ผู้เรียนนำ
Wikipedia มาใช้อ้างอิงในงานวิชาการ ซึ่งแม้แต่ Jimmy Wales ผู้ก่อตั้ง Wikipedia เองก็ยังกล่าวเหตุผลสนับสนุนโดยเน้นว่า
สารานุกรมชนิดใดๆ นั้นโดยปกติแล้วไม่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary
data) และผู้ใช้งานไม่ควรไว้วางใจว่าเนื้อหาดังกล่าวว่าเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้
แต่เนื้อหาที่มีใน Wikipedia เป็นเพียงช่องทางหนึ่งที่รวบรวมแหล่งอ้างอิงให้ง่ายต่อการสืบค้นข้อมูลต่อไปเท่านั้น
สรุป
ด้วยความหลากหลายและพัฒนาอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยีประกอบกับกับเทคโนโลยีมีความเหมาะสมกับวัฒนธรรมของผู้ใช้งานทำให้ web 2.0 ได้แพร่ความนิยมไปสู่วงการศึกษาโดยเฉพาะการนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนซึ่ง web 2.0 มีลักษณะที่สามารถนำไปใช้ในการจัดการศึกษาได้อย่างรวดเร็วและเข้ากันได้ดี
ในวงการศึกษาต่างประเทศ
มีการนำเทคโนโลยี ของ
web 2.0 มาใช้กับการจัดการศึกษา ผ่านระบบ E-Learning อย่างหลากหลายและแปลกใหม่โดยใช้เครื่องมือในการผสมผสานจัดการศึกษาผ่านระบบE-Learningดังนี้
1.การนำเสนองานด้วย Google เป็นการนำเสนอด้วยเอกสารผ่านเทคนิค ของ Google
2.การสาธิตการใช้ web 2.0Toolด้วยทิปและหัวข้อสนทนาใน Google